น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เงินบาทไทยตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันอ่อนค่าลงแล้ว 7.6% แต่ถือว่าอยู่ระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับสกุลเงินในภูมิภาคอื่น มาจากปัจจัยการปรับขึ้นดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด และความกังวลเงินเฟ้อสูง รวมทั้งความกังวลเศรษฐกิจจะถดถอยด้วย ซึ่งการดูแลค่าเงินบาทของ ธปท. ในขณะนี้ยังปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด และไม่สามารถบอกได้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะไปอยู่ระดับใด โดยหากเงินบาทผันผวนมากผิดปกติ ธปท. พร้อมเข้าไปดูแล

นอกจากนี้ยังไม่เห็นการไหลเข้าไหลออกของเงินทุนต่างชาติที่ผิดปกติ และตั้งแต่ต้นปี จนถึงวันที่ 5 ก.ค.65 เงินทุนยังเป็นบวกสุทธิที่ 9.7 หมื่นล้านบาท โดยในตลาดหุ้นมีเงินไหลเข้า 1.04 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาดพันธบัตรไหลออก 7,000 ล้านบาท ส่วนในระยะข้างหน้า เชื่อว่าตลาดมีการคาดการณ์อยู่แล้ว หากไม่มีปัจจัยใหม่เพิ่มเติมเข้ามา ทุกอย่างก็น่าจะเป็นไปตามที่คาดการณ์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

“ขณะนี้จะยังคงปล่อยให้การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเป็นไปตามกลไกของตลาดเป็นหลัก และอยู่ในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นทั่วโลก ซึ่งแม้จะอ่อนค่าลงมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แต่เชื่อว่าในครึ่งปีหลังมีโอกาสพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ และ ธปท. ยืนยันว่ายังไม่มีมาตรการในการควบคุมเงินทุนไหลออก เพราะเชื่อว่าการปล่อยให้ตลาดเคลื่อนไหวเสรีเป็นกลไกที่ดี แต่มาตรการในการดูแลยังต้องมี ซึ่งถ้าไม่จำเป็นหรือไม่มีวิกฤติก็ไม่จำเป็นต้องนำมาใช้”

น.ส.ณชา อนันต์โชติกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า ธปทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. คาดว่าครึ่งปีหลังเงินบาทจะกลับมาเป็นบวก หรืออาจกลับมาแข็งค่าขึ้น หากภาคการท่องเที่ยวของไทยกลับมาได้ และหากราคาน้ำมันไม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าขนส่ง ค่าระวางการส่งสินค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดติดลบ ซึ่งคาดว่าปีนี้จะติดลบ 8% แต่เริ่มเห็นว่าปัญหาซัพพลายคลี่คลายแล้ว ทำให้ค่าขนส่ง ค่าระวางการส่งสินค้าระหว่างประเทศเริ่มปรับลดลง และหากท่องเที่ยวกลับมาด้วย บวกกับราคาน้ำมันไม่สูง ก็จะช่วยให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นบวกในช่วงครึ่งปีหลังหรือต้นปีหน้าที่ 5,000 ล้านดอลลาร์

By admin