จริงๆ แล้ว มันคือการที่องค์กรสามารถตอบสนองต่อแรงกดดันทางด้านธุรกิจในยุคปัจจุบัน เช่น ปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลก เงินเฟ้อ ปัญหาโรคระบาด ปัญหาสังคม ความเหลื่อมล้ำ ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และพลังงาน นั่นคือ องค์กรต้องสร้างคุณค่าครบทุกมิติทั้งสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่แค่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่เราทำแต่ละด้านได้ดีแค่ไหน และอยู่จุดใดของโลก จำเป็นต้องมีตัวชี้วัด

ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI คือองค์กรที่ทั่วโลกให้การยอมรับ เป็นเสมือนไม้บรรทัดช่วยวัดประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ความสำคัญของ DJSI ก็คือ การที่ภาคเอกชน โดยเฉพาะองค์กรในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก เข้ามาใช้กฎกติกาเดียวกัน ในการเปรียบเทียบ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ แล้วออกมาเป็นคะแนนให้ทราบว่า องค์กรนั้นอยู่ที่จุดใด อีกทั้งยังช่วยสร้างโอกาสที่ดี เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน มักจะให้ความสนใจกับองค์กรที่ถูกเลือกเข้าดัชนี DJSI เพราะถูกคัดกรองแล้วว่าเป็นบริษัทที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล สร้างผลตอบแทนที่ดี และยั่งยืนให้กับผู้ลงทุนคำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต

ทั้งนี้ DJSI มี 3 แกนหลักที่ใช้ในการประเมิน คือ ESG ประกอบด้วย E คือEnvironment การทำธุรกิจต้องลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมS ย่อมาจากSocial การให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจและ G คือGovernance ธุรกิจที่ดีจะยั่งยืนได้ ต้องมีการบริหารจัดการความเสี่ยงในทุกหน่วยงาน มีการกำกับดูแลธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตามหลักธรรมาภิบาล นอกจากนี้ DJSI ยังประเมินในเรื่องความมั่นคงทางธุรกิจ เช่น รายได้ กำไร และ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สำคัญอีกหลายเรื่องมาประกอบกันคำพูดจาก ทดลองสล็อต ใหม่ล่าสุด

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งหวังให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยนวัตกรรมพลาสติกและในฐานะของผู้นำเคมีภัณฑ์ สิ่งที่ยืนยันได้ถึงความตั้งใจนี้ คือการที่ GC เป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ระดับสากล แห่งแรกในเอเชียที่ติดอันดับ 1 ของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ จากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ปี 2565 และยังติดอันดับ Top 10 ประเภท DJSI World และ Emerging Markets ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10

เส้นทางสู่ความสำเร็จมาจาก GC ร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมรอบตัว ตามเป้าหมาย Net Zero โดยส่งมอบผลิตภัณฑ์และทางเลือกที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2564 – 2565 ดำเนินโครงการอนุรักษ์พลังงาน ช่วยลดการใช้พลังงาน เทียบเท่าการลดคาร์บอนไดออกไซด์ 80,280 ตัน การดำเนินโครงการ Solar Rooftop และ Solar Floating การต่อยอดขยายผล “YOUเทิร์น” แพลตฟอร์ม นำขยะพลาสติกกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและอัพไซคลิง การสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ระดับ Food Grade มาตรฐานโลก การลงทุนในผลิตภัณฑ์สารเคลือบและสารเติมแต่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปลูกและฟื้นฟูป่า สำหรับการชดเชยคาร์บอน เป็นต้น

GC ช่วยเหลือสังคมในทุกวิกฤต เมื่อครั้งวิกฤตโควิด 19 ได้ร่วมกับเครือข่าย ใช้ความเชี่ยวชาญด้านเคมีภัณฑ์และพลาสติก เทคโนโลยี และนวัตกรรม ต่อยอดช่วยเหลือสังคมได้อย่างทันท่วงทีทั่วประเทศ โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มีการระบาด ช่วงวิกฤตน้ำท่วม GC สนับสนุนเรือพายพลาสติก ให้กับจังหวัดที่ประสบอุทกภัยทั่วทุกภาค มีการส่งมอบถังน้ำสะอาด InnoPlus เมื่อถึงคราวเกิดวิกฤตภัยแล้ง ในช่วงวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ได้ ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สนับสนุนเครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 นำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่วิกฤต นอกจากนี้ ยังเข้าถึงวิสาหกิจชุมชน (Social Enterprise) เพื่อสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพ

GC ดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ยืนยันได้จากรางวัล SET Sustainability Awards of Honor ที่ได้รับต่อเนื่อง 5 ปีซ้อนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รางวัล NACC Integrity Awards รางวัลองค์กรโปร่งใส จากสำนักงาน ป.ป.ช. ทำให้ GC เป็นองค์กรที่นักลงทุนให้ความเชื่อมั่น

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของเบื้องหลังความสำเร็จที่ GC ไม่สามารถดำเนินการทุกอย่างเพียงองค์กรเดียว แต่เริ่มต้นจากความร่วมมือ การลงมือทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ประกอบกับความเชื่อมั่นจากพันธมิตร คู่ค้า ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่ช่วยให้ GC สามารถส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับโลกต่อไปได้อย่างยั่งยืน

By admin